อาจจะกล่าวได้ว่าปัญหาต้อกระจกเป็นปัญหาที่ไม่ว่าใครอาจจะเคยเผชิญทั้งทางตรงและทางอ้อม บางคนอาจจะเป็นเอง บางคนอาจจะมีพ่อแม่หรือญาติพี่น้องที่เป็น ซึ่งเลนส์ตานี้เองก็คือปัญหาของโรคนี้ โดยเลนส์ตาจะมีหน้าที่ในการรวมแสงให้เกิดการตกกระทบที่จอประสาทตา ทำให้เกิดสัญญาณส่งไปที่สมอง และแปลให้เกิดเป็นภาพต่างๆ ออกมา ดังนั้นหากในกรณีที่เลนส์ตาขุ่นมัว ก็จะทำให้การมองเห็นลดลง เรียกกันว่าเลนส์ตาขุ่น หรือโรคต้อกระจกนั่นเอง
จะรู้เมื่อไหร่ว่าตนเป็นโรคต้อกระจก
1.มองไม่ชัด
สำหรับอาการป่วยของโรคนี้นั้นมักจะเกิดขั้นก็ต่อเมื่อผู้ป่วยมีอาการตามัวกว่าเดิม ทำให้ส่งผลกับการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งการขับรถยนต์ ขับรถมอเตอร์ไซค์ การอ่านป้ายบอกทาง การอ่านหนังสือ หรือกิจวัตรประจำวันง่ายๆ ทั้งการเดินขึ้นและลงบันได การทำงาน การเดินออกไปนอกบ้าน อย่างไรก็ดีหากว่าคนป่วยได้รับการตรวจวัดระดับการมองเห็นก็จะมีระดับการมองเห็นที่ลดลงอีกด้วย
2.ผลกระทบกับการมองเห็น
ก่อนอื่นจะต้องเข้าใจก่อนว่าต้อชนิดนี้แต่ละชนิดมีผลกระทบต่อระดับการมองเห็นที่แตกต่างกันไป โดยจะขึ้นกับระดับแสงและขนาดของรูม่านตา โดยต้อชนิด PSCs จะมีอาการไม่มาก แต่จะมองใกล้ไม่ชัด เช่น อ่านหนังสือไม่ชัด ในขณะที่การมองไกลอาจจะมีผลไม่มาก การมองเห็นสีเป็นปกติ อย่างไรก็ดี ต้อชนิดนี้แบบที่เรียกกันว่า nuclear cataracts จะมีผลต่อการมองระยะไกลๆ มากกว่าระยะใกล้ และอาจจะมีผลต่อสีที่เห็นได้ หรือการเห็นแสงจ้ามากกว่าปกติ เวลาออกแดดหรือเวลาที่ไฟรถยนต์ส่องสวนมา
3.ค่าสายตาที่เปลี่ยนไป
สำหรับระดับค่าสายตาที่เปลี่ยนไปในลักษณะสายตาอันสั้นมากขึ้น ยิ่งหากว่าคนที่ป่วยต้อชนิดนี้แบบที่เรียกว่า nuclear sclerosis แต่เดิมอาจจะมีระดับสายตาปกติ ไม่ได้สั้นหรือยาว ไม่ต้องใส่แว่น แต่เมื่อเป็นต้อชนิดนี้จะทำให้มองไกลไม่ชัด หรือเกิดปัญหาสายตาสั้น ในกรณีของคนป่วยที่เคยมีสายตายาวอยู่แล้ว และใช้แว่นสายตาสำหรับมองไกล คนป่วยกลุ่มนี้ก็อาจจะพบว่าตนเองสายตาปกติแบบไม่ต้องสวมแว่นได้เลย
4.ภาพซ้อน
เพราะว่าภาพซ้อนจะมองเห็นวัตถุหนึ่งชิ้นเป็นสองชิ้น โดยการเห็นภาพซ้อนอาจจะเป็นโรคอื่นๆ ที่ร้ายแรงมากกว่า เช่นโรคอัมพาตเส้นประสาทสมอง ดังนั้นภาวะมองเห็นภาพซ้อนก็ควรปรึกษาจักษุแพทย์จะดีกว่า
อย่างไรก็ดีหากว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องการผ่าตัดต้อชนิดนี้ การศึกษาว่ามีสิ่งใดที่จะเป็นสาระความรู้ให้กับคุณเองมากที่สุด หรือรักษาอย่างไรจะดีที่สุด คือสิ่งที่ทุกคนควรใส่ใจและให้ความสำคัญ